แนะนำ 10 หูฟัง Gaming Headset สำหรับผู้ที่คลั่งไคล้การเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ

By สุโสภาภรณ์ แดงอุบล

สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงหรือใช้หูฟังในการเล่นเกมอยู่เป็นประจำ คงจะรู้ดีว่าแต่ละตัวมีความแตกต่างกันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนักเสียง, ความถี่ที่ได้รับ หรือความชัดเจนในการรับฟัง โดยเฉพาะหูฟังเกมมิ่ง หรือ Gaming headset ที่จะมีฟีเจอร์และองค์ประกอบต่างๆ ต่างไปจากหูฟังแบบธรรมดาที่เราใช้กัน เพื่อให้ได้รับอรรถรสที่สูงขึ้นไปอีกระดับ รวมไปถึงระบบของไมโครโฟนที่ต้องได้มาตรฐานเพื่อใช้ในการสื่อสารกับคนภายในเกม โดยมีเทคโนโลยีของ DTS และมาตรฐานเสียง Dolby Surround ซึ่งทั้งหมดจะรวมอยู่ใน 10 หูฟังสำหรับการเล่นเกม ดังนี้

เริ่มกันด้วยรุ่นแรกอย่าง Logitech Gaming Headset G231 ผลิตจากผ้าสไตล์สปอร์ตแบบนุ่ม รองรับการใช้งานได้หลายชั่วโมง โดยมีจุดเด่นอยู่ที่คุณภาพเสียงระดับสเตอริโอ ที่ใช้งานร่วมกับ PC, PlayStation 4 และ Xbox One ได้เป็นอย่างดี มีตัวขับสัญญาณนีโอดิเมียมขนาด 40 มิลลิเมตร เพิ่มความถี่ในทุกระดับให้ดีขึ้น และยังมีราคาที่เอื้อมถึงได้อีกด้วย

ด้วยรูปลักษณ์และดีไศซน์ภายนอก ทำให้ PlayStation Gold กลายเป็นหูฟังอเนกประสงค์ที่ทำได้หลายอย่าง และด้วยชื่อที่มาแบบเฉพาะ มันถูกผลิตมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบกับเครื่องเล่น PlayStation 4 ทั้งยังรองรับกับ Nintendo Switch, Xbox One และคอมพิวเตอร์ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ระบบไร้สาย, ระบบเสียง Visual Surround 7.1 และมีราคาที่ไม่แพงเกินไปอีกด้วย

ใครที่เป็นคอเกมคงเคยได้ยินชื่อแบรนด์นี้อย่างแน่นอนสำหรับ Razer ที่เพิ่งได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะด้วยสเปคที่แรงทันใจ โดยหูฟังรุ่น Razer ManOWar สามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มเกมชนิดต่างๆ ตั้งแต่ Xbox, PlayStation, Nintendo Switch และคอมพิวเตอร์ ชูจุดเด่นด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Headphone 7.1 ควบคู่กับไดรเวอร์เสียง 50 มิลลิเมตร และส่งสัญญาณความถี่ไร้สาย 2.4 GHz ทำให้เก็บทุกรายละเอียดเสียงได้อย่างชัดเจน

แบรนด์ Steelseries Arctis ถือเป็นน้องใหม่สำหรับหูฟังสำหรับเล่นเกม โดยมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Arctis 3, Arctis 5 และ Arctis 7 ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีดีไซน์ที่มันเงา ให้ความสะดวกสบายในการสวมใส่ พร้อมกับความนุ่มของ Ear pads ทั้ง 2 ข้าง โดยรองรับระบบเสียง 7.1 Surround Sound ขณะที่รุ่น Arctis 3 และ Arctis 5 ได้นำระบบเสียงของ DTS มาใช้ ส่วน Arctis 7 จะเป็นหูฟังแบบไร้สายรุ่นเดียวจาก 3 รุ่นนี้ และผลิตจากวัสดุที่ผสมระหว่างโลหะและเหล็กเข้าไปอีกด้วย

ในรุ่นนี้สามารถให้เราได้รับประสบการณ์เสียงระบบ Hi-Fi ช่วยให้ได้ยินรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนมากกว่าเดิม มีการปรับระดับเสียงและไมโครโฟนที่แยกกันอย่างอิสระ โดยมีการออกแบบให้ครอบปิดทั้งหู ช่วยให้ตัดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี และยังรอบรับการเชื่อมต่อแบบสาย USB ทั้งในคอมพิวเตอร์, Mac, Playstation 4, Xbox One และอุปกรณ์พกพาอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับเจ้าชิ้นนี้เป็น Headset ระดับ High-End โดยมีระบบเสียงระดับ Audiophiles ที่เก็บรายละเอียดได้ดีมาก ไม่ว่าเราจำเล่นเกมหรือฟังอยู่ก็ตาม พร้อมด้วยไดร์เวอร์เสียงขนาด 53 มิลลิเมตร มีการเปิดช่องว่างตัวหลังหูฟังเพื่อเพิ่มคุณภาพเสียง และมีขนาด Ear pads ที่นุ่ม, ใหญ่ และเบา ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อเราเล่นเกมติดต่อกันเวลานาน

หูฟัง Sennheiser GAME ONE มี Ear pads ที่ผลิตจากผ้า plush ที่มีความหนานุ่ม เพื่อให้ทุกคนใส่สบายตลอดระยะเวลาในการเล่นเกม มีจุดเด่นเรื่องของไมโครโฟนที่ตัดเสียงรอบข้างได้เป็นอย่างดี รองรับกับทุกอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ PC, Mac, เครื่องคอนโซล, สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ด้วยการใช้สายเชื่อมต่อแบบ 3.5 มิลลเมตร

หูฟัง Logitech รุ่น G933 มาพร้อมกับระบบเสียง 7.1 Dolby Surround Sound ทำให้ได้ยินเสียงรอบทิศทางอย่างชัดเจน รอบรับหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, เครื่องคอนโซล (PS4, Xbox One) หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งสามารถปรับแต่งค่าเสียงได้ด้วยซอร์ฟแวร์ Logitech Gaming เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ทั้งยังมีแบตเตอรี่อึดนานกว่า 12 ชั่วโมง

มาถึงตัวรองสุดท้าย เราก็ขอพูดถึง V-MODA Crossfade LP2 หูฟังระดับสูงที่จะให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงอรรถรสที่แท้จริงของเกมด้วยไดร์เวอร์เสียงขนาด 50 มิลลิเมตร ให้เสียงเป็นธรรมชาติ โดยสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร พร้อมให้เสียงคมชัดในทุกระดับ และถือเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับหูฟังของคอเกมโดยเฉพาะ

ตัวสุดท้ายที่เราแนะนำ คือ A40 TR จากค่าย Astro ถือเป็น Gaming Headset ที่ราคาสูงจากแบรนด์อื่นนิดหน่อย เนื่องจากประสิทธิภาพแบบจัดเต็มของมัน เริ่มตั้งแต่การปรับหูฟังให้เหมาะกับแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ตัวของไมโครโฟนก็ยืดหยุ่นและใช้วัสที่ทำจากเหล็ก ทั้งยังมาพร้อมระบบเสียง 7.1 Dolby Surround โดยมีตัวควบคุมที่เรียกว่า "Mixamp" ช่วยเพิ่มมิติในการรับฟังเสียงต่างๆ สูงขึ้นไปอีกขั้น

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 10 หูฟังสำหรับคอเกมที่เราแนะนำ โดยต้องขอเตือนไว้ในตอนท้ายนี้ว่าความสามารถและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใช้บน Gaming Headset เหล่านี้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ฟังเพลงหรือเล่นเกมแบบทั่วไป เนื่องจากมีราคาที่ค่อนข้างสูงและเน้นใช้งานอย่างจริงจังมากกว่าปกติ นอกจากนี้ หากใครที่ต้องการลองซื้อหรือเลือกหูฟังแบบอื่นๆ หรือสินค้าไอทีทั่วไป ก็สามารถเข้ามาได้ที่เว็บไซต์ Siamphone Store ของเราได้เลย