5 อันดับหูฟัง bluetooth แบรนด์และรุ่นที่เกาะติดเทรนด์อยู่ตอนนี้

By สุโสภาภรณ์ แดงอุบล

5 อันดับหูฟัง bluetooth ที่วันนี้ทาง Earphonesforme จะมาจัดอันดับทั้งรุ่น แบรนด์ที่ขายดี และเป็นกระแสคนกำลังหามาใช้กันแบบจัดหนัก และของอาจจะมีขาดตลาด โดยเฉพาะบางแบรนด์ที่หันมาเอาดีทางด้านหูฟังแบบบลูทูธ ถือว่าสงครามครั้งนี้น่าจะไม่เบา แต่ทั้งหมดก็เพื่อผลดีกับผู้ใช้ทั้งสิ้น

Apple ถือว่าก็ยังน่าจับตามอง และนำมาใช้เปรียบเทียบกับรุ่นแบรนด์อื่นๆ ได้เลย มีความได้เปรียบในตัวผู้นำทางมือถืออยู่แล้ว ดังนั้นถ้าผู้ใช้คนไหนที่อยากจะถอยทั้งรุ่นใหม่ Apple 13 มาพร้อมกับหูฟังรุ่นใหม่ก็ไม่น่าแปลกอะไร กับ Airpods Pro ที่มีความต่างจาก gen 2 ที่ตัวเคสใส่ที่ไปทางแนวทรงสีเหลี่ยมผืนผ้า และมีจุดเด่นที่ความสามารถในการตัดเสียง และแบ่งเป็น 3 โหมดได้คือ ปกติ ตัดเสียงรบกวนภายนอก และโหมดกลับมาที่สามารถฟังเสียงรบกวนภายนอก ที่สำคัญลืมบอกไปว่า เป็นแบบอินเอียร์ หรือมีจุกที่สามารถใส่เข้าไปข้างในหูได้เลย

ต่อมาน้องใหม่มาแรงที่เพิ่งออกรุ่นที่น่าสนใจ ถือว่าเป็นแบรนด์ผู้นำด้านเครื่องเสียงอันดับต้นๆ ที่ผ่านมาทำเพียงแค่ตัวใหญ่ๆ หรือ headphone รุ่นพี่ใหญ่เท่านั้น มาลุยตลาดของวัยฮิปกันบ้าง แต่ยังไม่วายที่จะมีการออกแบบดีไซน์ แนวหรู เรียบ แต่คลาสสิก เสียดายที่ยังไม่สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ แต่ความคมชัดไม่เสียงชื่อแน่นอนในระดับ 12 มม และยังสามารถเล่นได้นาน 25 ชั่วโมง และใครบางคนตัดสินใจซื้อเพียงแค่ โลโก้ตัว W ที่เป็นตัวเขียนใหญ่เท่านั้น เชื่อหรือไม่!

เมื่อพูดมาถึง 5 อันดับหูฟัง Bluetooth ตรงนี้แล้ว คิดว่าคงโดนใจหลายคนที่อยากได้ที่มีรูปแบบสวย แปลกใหม่ และราคาเอื้อมถึง แบรนด์หนี่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลยคือ Huawai รุ่นที่น่าสนใจไม่น่ามองข้ามเลยคือ FreeBuds 4 ที่หากมองผิวเผินคงคล้ายกับ Apple แต่มีคุณสมบัติที่น่าจับจองที่น้ำหนักเบาเพียง 4.1 กรัม เก็บเสียงความถี่ 48 Khz รวมถึงดีไซน์เป็นแบบ open fit หรือ ear bud ที่เหมาะกับผู้ที่เน้นการถ่ายทำ ตัดต่อวีดีโอคลิป หรือสายโซเชียลอย่างหนักๆ เพราะชาร์ทไม่นาน และใช้ต่อได้เป็นชั่วโมง หากให้พูดแบบไม่เชียร์ถ้าเทียบกับราคา ถือว่าคุ้มค่าการใช้งานอย่างยิ่ง

อีกรุ่นที่ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก เทียบได้กับ Huawei แบบเลือกไม่ถูกทีเดียวคือ แบรนด์ Xiaomi รุ่น Omthing Airfree เด่นด้วยขนาดของน้ำหนักเพียง 4 กรัม และไดร์ฟเวอร์ความคมชัดของเสียงที่ 7 mm ถือว่าคนซื้อได้กำไรมากหากซื้อเพียงราคาไม่ถึงพัน เรียกว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ซื้อเหมือนได้เปล่าทีเดียว กับความสามารถที่สามารถากด tap รับสาย วางสายที่ตรงหูฟังได้เลย หรือใครที่เป็นคอเพลงกดหยุด เล่นเพลง แบบง่ายๆ

รุ่นสุดท้ายนี้จะขอเป็นแบรนด์ ที่เข้ามาตีตลาดในกลุ่มหูฟังไร้สายที่น่าสนใจไม่แพ้ข้างต้น ด้วยดีไซน์ที่ให้เห็นตัวในของเครื่อง โดดเด่นที่สีส้มสดใส และสีดำ นอกจากนั้นยังมีอีกหลายสีนู้ด หรือสีด้านให้เลือกแบบตีตลาดที่ไม่ค่อยมีคนทำสีแบบนี้สักเท่าไหร่

ลักษณะเด่นของ JBL Tune 225 TWS ที่รั้งอยู่ 5 อันดับหูฟัง bluetooth ตัวนี้คือ นอกจากความสวยของสีที่มองทะลุด้านในได้แล้วนั้น ยังมีความสามารถเหมือนตัวพี่ๆ ข้างต้น ทั้งการชาร์ทได้เร็วเพียงไม่เกิน 20 นาทีก็สามารถใช้งานได้ถึงชั่วโมง หากชาร์ทเต็มใช้ได้เกินวันทีเดียว สำหรับการเปิดสแตนบาย แต่ถ้าให้พูดกันตรงๆ ความสวย และฮิปของตัวนี้ก็ไม่เสียดายเงินที่จะจ่ายไปในราคา 4 พันกว่าๆ ถือว่าดีต่อใจ และใช้งานได้ครอบคลุมอีกด้วย

ในวันนี้ที Earphonesforme แนะนำมาถือว่าเป็นรุ่นที่สวยเด่น ทันกระแส และใครหลายคนยังหามาใช้กันอยู่อย่างต่อเนื่อง หรือเรียกง่ายๆ ว่าไม่ตกเทรนด์แน่นอน เพราะแต่ละแบรนด์ก็นำเสนอในจุดเด่นของตัวเอง ทั้งการใช้งาน รูปลักษณ์ที่โดดเด่น สีที่มองข้ามไปไม่ได้ทีเดียว สำหรับการเลือกของใช้ gadget แบบนี้ที่ต้องเลือกให้ตรงกับความชอบของแต่ละคน เรียกได้เห็นหูฟังก็สามารถอ่านออกว่า ผู้ใช้คนนี้เป็นคนสไตล์ไหนกันเลย ติดตามต่อคราวหน้าว่า เราจะนำเสนออะไรที่เป็นสินค้าในความนิยม และขาดไม่ได้ในชีวิตของเราแต่ละคน