Remaster คืออะไร

By สุโสภาภรณ์ แดงอุบล

สวัสดีครับ วันนี้มาพบกับอีกคำหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยในวงการเพลง วงการเครื่องเสียง ผมเชื่อว่านักเล่นหลายๆ ท่านเข้าใจกันดีอยู่แล้ว และยิ่งถ้าทำงานด้านเพลงด้วยยิ่งจะเข้าใจในระดับลึกขึ้นไปอีก

Master สำหรับวงการเพลงก็คือไฟล์ต้นฉบับ ถ้าบันทึกลงเทปเราจะเรียกว่า Master Tape แต่ถ้าอยู่ในรูปของไฟล์ใน HDD เราจะเรียกว่าไฟล์ Master

การทำ Master จะเริ่มจากการบันทึกเสียงดนตรีสดจากนักดนตรี แล้วนำมาปรับปรุง แก้ไข จนได้ไฟล์เพลงแบบที่ศิลปินหรือโปรดิวเซอร์ต้องการ แล้วก็เอาตัว Master นี่แหละไปบันทึกซ้ำเพื่อนำไปจำหน่ายต่อไป

ในยุคแรกของการบันทึกเสียง จะบันทึกเสียงลงเทปในระบบ Mono โดยใช้ไมค์ตัวเดียว เสียงจะออกแบนๆ ไม่มีมิติ

ยุคต่อมาจึงเริ่มบันทึกแบบ Stereo (2 Chanel ซ้ายขวา ใช้ไมค์ 2 ตัว หรือมากกว่า) แต่เนื่องจากเทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้า การบันทึกจะต้องบันทึกพร้อมกันทั้งหมด ต้องมาเล่นพร้อมกันในที่ห้องเดียวกัน ข้อดีคือได้เสียงที่สมจริง มิติดนตรีถูกต้อง เสียงมีความต่อเนื่องลื่นไหล แต่มีข้อเสียคือถ้าคนใดคนหนึ่งเล่นผิดก็ต้องเล่นใหม่ทั้งหมด ทำให้เสียเวลาในการบันทึกมาก และยังต้องนัดนักดนตรีทุกคนให้พร้อมกันด้วย

จากความยุ่งยากในการบันทึกเสียงดังกล่าวจึงมีการคิดวิธีการบันทึกเสียงแบบใหม่ โดยบันทึกแยกแต่ละชิ้นเครื่องดนตรี บันทึกคนละเวลาแล้วค่อยนำมารวมกันทีหลัง เรียกว่าบันทึกแบบ MultiTrack มีการทำเทป 4 Track 8 Track 16 Track และอื่นๆ อีกมากมายตามมา ยิ่ง Track เยอะก็คือจะสามารถบันทึกชิ้นดนตรีได้เยอะเท่านั้น

การบันทึกแบบนี้ไม่ต้องรอให้พร้อมกัน ใครพร้อมตอนไหนก็เข้ามาบันทีกได้เลย และถ้าใครเล่นผิดก็แก้ไขเฉพาะของคนๆ นั้น ซึ่งต่อมาวิธีนี้เป็นที่นิยมกันมาก ลำดับการบันทึกก็จะแล้วแต่ SoundEng คนนั้นจะจัดการ แต่ส่วนใหญ่จะบันทึกภาค Rhythm ก่อน แล้วค่อยไปภาคดนตรี เสียงประสาน นักร้องส่วนใหญ่จะอยู่ท้ายสุด

การเข้ามาของคอมพิวเตอร์และไฟล์ดิจิตอลเปลี่ยนวงการบันทึกเสียงขนานใหญ่ แม้ว่าเทป Multitrack จะทำให้การบันทึกเสียงง่ายขึ้น แต่การแก้ไขแต่ละจุดก็ยังทำได้ยากเมื่อเทียบกับไฟล์ดิจิตอล และการจัดเก็บ Master Tape ก็ทำได้ยากกว่าไฟล์ใน HDD ด้วย (ต้องเก็บในห้องเฉพาะที่กันความชื้น ฝุ่นหรือแสงแดด หากเก็บไม่ดี Master Tape จะเสื่อมคุณภาพอย่างรวดเร็ว)

ปัจจุบันจะเป็นการบันทึกเสียงแบบดิจิตอลเกือบทั้งหมด โดยจะบันทึกเป็นไฟล์เก็บไว้ใน HDD เลย สามารถมี Track ได้ไม่จำกัดขึ้นอยู่กับว่าโปรแกรมจัดการและอุปกรณ์จะมีคุณภาพขนาดไหน ข้อดีคือทำงานได้รวดเร็ว การแก้ไขทำงานง่าย ยิ่งยุคปัจจุบันที่มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง นักดนตรีอยู่คนละที่หรืออยู่คนละประเทศก็ไม่มีปัญหา ลดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ

แต่มีข้อเสียคือถ้า Mix ไม่ดีเสียงที่ได้จะไม่สมจริง (แบนราบ หรือผิดรูปวง) ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ และเทคนิคในขั้นตอนการ Mix สำคัญมาก

การนำไฟล์ดิบแต่ละ Track มารวมกันเป็นไฟล์เดียวเพื่อเอาไป copy จำหน่าย (ทั้งเทป , แผ่นเสียง , CD หรือไฟล์ดิจิตอล) จะเรียกว่ารวมๆ ว่าทำ Master ครับ (ซึ่งจะมีทั้งการ Mix EQ Edit Cutoff Effect Encode Render อีกมากมายหลายขั้นตอน) การทำ Master จะถูกควบคุมโดย SoundEng , Producer และนักดนตรี เพื่อให้ได้เสียงในแบบที่ต้องการ

การ Remaster ก็คือการทำขั้นตอนแบบทำ Master อีกครั้ง (Re Master = ทำ Master ซ้ำ) ฉะนั้นการ Remaster สำคัญจะต้องมีไฟล์ Master ต้นฉบับ เพราะจะทำให้สามารถแก้จุดต่างๆ ได้เหมือนการทำ Master (แต่ไม่ต้องบันทึกเสียงใหม่ เพราะมีบันทึกไว้อยู่แล้ว) ไฟล์ Master ส่วนใหญ่จะเป็น MultiTrack เพราะจะทำให้ให้ง่ายต่อการ Edit

การ Remaster เริ่มนิยมในวงการเครื่องเสียง นักเล่นระดับสูงที่ต้องการคุณภาพเสียงดีๆ ทำให้ห้องอัดต่างๆ พยายามหา Master เอามาทำใหม่เพื่อป้อนลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอัลบั้มดังๆ ศิลปินดังๆ ทั้งนั้น

ที่ต้องทำใหม่เพราะเขามองว่าไฟล์เก่าคุณภาพมันยังไม่ดีพอ น่าจะดีขึ้นไปอีก และที่แน่ๆ คือจะขายได้อีก (เป็นการตลาดครับ) ลองคิดดูสิใครจะซื้อเพลงอัลบั้มเดิมๆ ถ้ามันก็เหมือนแผ่นที่เรามี การ Remaster จะทำให้เราต้องซื้อแผ่นเดิมๆ ซ้ำอีก ยิ่งวงดังเท่าไหร่ก็ยิ่งจะมีแผ่น Remaster ออกมาเยอะเป็นเงาตามตัว บางวงนี่มีหลายสิบเวอร์ชันเลยทีเดียว

อาจจะมีคำถามว่าแล้ว Remaster เสียงดีขึ้นจริงไหม ส่วนใหญ่ดีขึ้นครับ แต่ไม่เสมอไปขึ้นอยู่กับคนทำและอุปกรณ์ที่ใช้ และเพราะว่าการ Remaster จะต้องใช้ไฟล์ Master ดังนั้นห้องอัดต่างๆ ก็ต้องทุ่มเทซื้อไฟล์ Master จากต้นสังกัดของศิลปินคนนั้น ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ค่อนข้างสูง พอนำไป Remaster กลุ่มคนที่ซื้อก็กระจุกอยู่แต่เฉพาะนักเล่นเครื่องเสียง ทำให้แผ่นมีราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับแผ่นปกติ

การ Remaster นิยมทำกับงานเก่าๆ ที่บันทึกในแบบเทปแปลงมาเป็นดิจิตอลเพราะจะเห็นความแตกต่างชัดเจน ไม่ค่อยนิยมทำกับงานใหม่ๆ เพราะเก็บเป็นรูปแบบไฟล์ดิจิตอลอยู่แล้ว ซึ่งไม่ค่อยเห็นความแตกต่างมากนัก

ดังนั้น เมื่อเราเห็นคำว่า Remaster หรือ Remastering บนแผ่นเพลงก็หมายความว่าเป็นแผ่นที่เกิดจากการนำไฟล์ Master มาทำซ้ำนั่นเอง

การบันทึกงานแสดงสดส่วนใหญ่จะบันทึกไปพร้อมกันทีเดียว การแก้ไขเป็นไปได้ยาก แม้ว่าจะวางไมค์แยกให้แต่ละคนแต่ละเครื่องดนตรีแล้ว แต่ก็ยังมีเสียงที่รบกวนกัน รวมถึงเสียงบรรยากาศรอบข้าง เสียงของผู้ฟัง แต่นั่นก็คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของงานแสดงสด การ Mix จึงไม่เหมือนกับการทำงาน Studio

การ Remaster งานแสดงสดส่วนใหญ่จึงไม่สามารถลงไปแก้ไขในแต่ละเสียงเสียงดนตรีได้ ส่วนใหญ่จะแก้ไขในภาพรวมให้เสียงสะอาดขึ้น ยกรายละเอียดโดยรวม หรือปรับให้เนื้อเสียงมีมวลมีน้ำหนักขึ้นเท่านั้น เป็นเหตุผลว่าทำไมแผ่น Remaster งานแสดงสดจึงไม่ค่อยเห็นความแตกต่างกับแผ่น Master เดิมเท่าที่ควร

เห็นว่ามีหลายๆ ท่านที่ทำงานด้านนี้ ถ้าส่วนใดผมผิดพลาดหรือไม่ถูกต้องก็ท้วงติงได้เลยครับ จะได้แก้ไขให้ถูกต้อง