มือใหม่เล่นเครื่องเสียง อ่านสักนิด

By สุโสภาภรณ์ แดงอุบล

คำถามหลักที่ผมเจอบ่อยๆมากๆก็คือ มีงบเท่านี้ xxxxxxx บาท ดูหนัง 60% ฟังเพลง 40% จะเล่นตัวไหนดี หรือชุดนี้ราคาเท่าไร่ (แยกชิ้น)

----------------------------------------------------------------------

วันนี้เลยอยากจะมากลับมาสู่เบสิค สู่จุดเริ่มต้น เอาใจมือใหม่กันบ้างว่าพื้นฐานการเล่นเครื่องเสียงระดับเริ่มเลยที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะซื้อเครื่องเสียงสักชุดนึงให้ได้เสียงที่ถูกใจ และตอบโจทย์ที่สุดนั้นต้องรู้อะไรบ้าง จะได้ไม่หลงไปกับแรงเชียร์ แรงโฆษณาตามร้านๆต่างๆ ตามกรุ๊ปที่เชียร์แต่ของของสปอนเซอร์ตัวเอง หรือตามร้านที่จัดชุดลำโพงหลักหมื่น แต่เส้นสายและอคูสติกห้องฟังหลักล้านมาให้ฟัง

1. คุณจะดูหนังหรือฟังเพลง เอาให้แน่ๆ ซิสเต็มหรือเครื่องเสียงบ้านบนโลกในนี้มีสองแบบใหญ่ๆ ไม่นับพวกลำโพงคอม ลำโพง active ไม่นับ PA ไม่นับพวกหูฟัง ก็คือ

- Multi channel หรือบ้านเราเรียกกันว่า Home Theater เครื่องที่ต้องซื้อจะเป็น AVR หรือ pre processer ลำโพงต้องซื้ออย่างต่ำ 5 ตัวหรือ 5.1 แชนแนล หรือถ้างบเยอะก็ไปยัน 7.2.4

ระบบแบบนี้ถูกสร้างมาเพื่อ ดูหนัง แผ่นที่เอามาเล่น (Bluray, DVD) ก็จะบันทึกมาแบบดูหนัง คือแยกเสียงพูดมาไว้ที่ลำโพงเซ็นเตอร์ เสียงดนตรีที่คู่หน้า เสียงบรรยากาศมาไว้ที่เซอราวด์

ดังนั้นเวลาฟังเพลงคุณจะก็จะฟังได้จากระบบของ home theater ถามว่าฟังดีมั๊ย ก็ตอบว่าฟังเพลงได้ แต่ฟังไม่ดีมาก แค่พอฟังได้ เพลินๆ ดูยูทูบ ดูทีวี ฟังแผ่น 2 แชนแนลได้ จะปรับเสียงลำโพงให้ออกหมดทุกตัวเป็นเซอราวด์ หรือให้ออกแค่ 2 แชนแนลก็ได้

แต่เสียงฟังเพลงจะไม่ดีเท่าไร่หรอก ให่้ทำใจไว้ว่าหากคุณเลือกระบบเสียง multi channels คือคุณจะไม่เน้นเรื่องการฟังเพลง แต่คุณกำลังให้ความสำคัญกับ ซิสเต็มที่อเนกประสงค์ ใช้งานได้ครอบจักรวาล เน้นดูหนัง ดูคอนเสริต์ และฟังเพลงได้

- ระบบ 2 แชนแนล เป็นระบบที่ออกแบบและทำมาเพื่อฟังเพลงโดยเฉพาะ มีลำโพงแค่ 2 ตัว มี amp อีกแบบที่เรียกว่า Integrated amp ใช้สำหรับฟังเพลงโดยเฉพาะ ต่อลำโพงสองตัวแล้วฟังได้เลย จะใช้ cd จะต่อ turn table ก็ตามสะดวก เสียงนั้นดีและลื่นไหลกว่าฟังด้วย AVR เยอะ

แต่เอามาดูหนังก็ไม่ดี เพราะมันมีลำโพงแค่ 2 แชนแนล การดูหนังก็จะสู้แบบ multi channels ไม่ได้

2. ทำความเข้าใจให้ดีก่อนว่า เครื่องเสียงแยกชิ้นไม่ใช่เครื่องเสียงพวกมินิคอมโป หรือชุดที่ขายตามห้าง ที่มีลำโพงเป็นเสาๆ หลายๆตัวแล้วมีเครื่องเล่นมาเป็นชุด ให้มาเป็นกล่องครบแบบนั้น

ดังนั้นเวลาจะหาข้อมูลเครื่องเสียงแยกชิ้นดีๆสักชุดมาเล่น อย่าพยายามถามคนขายว่าชุดนี้ราคาเท่าไร่ เพราะคนขายอาจจะจับยัดของที่คุณไม่ได้เลือก หรือไม่ต้องการมาให้

เนื่องจากเครื่่องเสียงแยกชิ้นมันไม่ได้ขายเป็นชุด มันขายเป็นชิ้น คุณต้องศึกษาว่ามีตัวไหนบ้าง ที่คุณจะเอามาใช้ในซิสเต็ม แล้วเอาราคาเป็นตัวๆ เลือกแต่ที่ต้องการ

ไม่เช่นนั้นจะเจอการยัดของ คิดราคาเหมาที่บางทีแยกราคาแต่ละชิ้นแล้วยังถูกกว่าเสียอีก

จำง่ายๆ เลิกถามคำว่าชุดนี้ราคาเท่าไร่ เพราะเครื่องเสียงแยกชิ้นส่วนใหญ่มันไม่ได้จัดชุดไว้ ชุดนึงสามารถจับมามิ้ก เอาตัวนู้นผสมตัวนี้ ได้มากมาย หลากหลายราคา บางทีคนขายก็งงว่าจะเอาตัวไหนให้ลูกค้าดี (ว่ะ) จะจัดชุดใหญ่ให้ก็กลัวจะแพง.... ลูกค้าก็จะหาว่าแพงว่ะร้านนี้ หนีไปร้านอื่น ถามคำถามเดิม ชุดนี้ราคาเท่าไร่ แต่ร้านนี้หัวหมอ อาจจะจัดชุดเล็ก ลำโพงตัวเล็ก ผสมซับรุ่นถูกให้คุณ คุณก็จะ เออออ ถูกดี แบบนี้แหละที่ต้องการ ร้านแรกต้มหมูเรานี่เอง ก็จะกลายเป็นโดนร้านที่สองหลอกฟาดไปแบบเนียนๆ

3. เป็นระบบที่ออกแบบและทำมาเพื่อฟังเพลงโดยเฉพาะ มีลำโพงแค่ 2 ตัว มี amp อีกแบบที่เรียกว่า Integrated amp ใช้สำหรับฟังเพลงโดยเฉพาะ ต่อลำโพงสองตัวแล้วฟังได้เลย จะใช้ cd จะต่อ turn table ก็ตามสะดวก เสียงนั้นดีและลื่นไหลกว่าฟังด้วย AVR เยอะแต่เอามาดูหนังก็ไม่ดี เพราะมันมีลำโพงแค่ 2 แชนแนล การดูหนังก็จะสู้แบบ multi channels ไม่ได้2.เครื่องเสียงแยกชิ้นไม่ใช่เครื่องเสียงพวกมินิคอมโป หรือชุดที่ขายตามห้าง ที่มีลำโพงเป็นเสาๆ หลายๆตัวแล้วมีเครื่องเล่นมาเป็นชุด ให้มาเป็นกล่องครบแบบนั้นดังนั้นเวลาจะหาข้อมูลเครื่องเสียงแยกชิ้นดีๆสักชุดมาเล่น อย่าพยายามถามคนขายว่าชุดนี้ราคาเท่าไร่ เพราะคนขายอาจจะจับยัดของที่คุณไม่ได้เลือก หรือไม่ต้องการมาให้เนื่องจากเครื่่องเสียงแยกชิ้นมันไม่ได้ขายเป็นชุด มันขายเป็นชิ้น คุณต้องศึกษาว่ามีตัวไหนบ้าง ที่คุณจะเอามาใช้ในซิสเต็ม แล้วเอาราคาเป็นตัวๆ เลือกแต่ที่ต้องการไม่เช่นนั้นจะเจอการยัดของ คิดราคาเหมาที่บางทีแยกราคาแต่ละชิ้นแล้วยังถูกกว่าเสียอีกจำง่ายๆ เลิกถามคำว่าชุดนี้ราคาเท่าไร่ เพราะเครื่องเสียงแยกชิ้นส่วนใหญ่มันไม่ได้จัดชุดไว้ ชุดนึงสามารถจับมามิ้ก เอาตัวนู้นผสมตัวนี้ ได้มากมาย หลากหลายราคา บางทีคนขายก็งงว่าจะเอาตัวไหนให้ลูกค้าดี (ว่ะ) จะจัดชุดใหญ่ให้ก็กลัวจะแพง.... ลูกค้าก็จะหาว่าแพงว่ะร้านนี้ หนีไปร้านอื่น ถามคำถามเดิม ชุดนี้ราคาเท่าไร่ แต่ร้านนี้หัวหมอ อาจจะจัดชุดเล็ก ลำโพงตัวเล็ก ผสมซับรุ่นถูกให้คุณ คุณก็จะ เออออ ถูกดี แบบนี้แหละที่ต้องการ ร้านแรกต้มหมูเรานี่เอง ก็จะกลายเป็นโดนร้านที่สองหลอกฟาดไปแบบเนียนๆ

เล่นเครื่องเสียงชุดแรก งบจำกัด งบน้อย จำไว้เสมอว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องใส่ใจก็คือ ลำโพง แอมป์ ไม่ใช่สายและ accessories

เพราะเคยเจอคนเล่นลำโพงราคาหนึ่งหมื่น แต่ซื้อสายราคาสองหมื่นไปใช้

พอเตือนก็เถียงมาอีกว่า คนเล่นเครื่องเสียงเป็นเส้นสายควรจะให้ความสำคัญกับมัน เอ้า ไม่เชื่อไปซะอีก

มีผลคร้าบบบ เส้นสาย และ accessories มีผลแน่นอน แต่มีผล 10-20 % ของซิสเต็มหลัก หากซิสเต็มคุณใหญ่มาก ห้องคุณจัดอคูสติกดี เซ็ทอัพถึง คุณเล่นไปเลยเส้นสาย มันฟังออกไม่มากก็น้อย

แต่ถ้าซิสเต็มระดับหมื่นต้นๆ หรือกลางๆ แล้วบอกจะทุ่มงบไปที่เส้นสายสัก 30% แบบนี้บอกเลยว่ามันไม่มีประโยชน์ สู้เอาเงินที่ทุ่มเรื่องเส้นสาย มาทุ่มที่ลำโพงหรือแอมป์ให้มันดีกว่าเดิมจะมีประโยชน์กว่า

อย่าลืมว่าเส้นสายใช้แต่งเติมและปรับจูน แต่มันไม่สามารถไปเปลี่ยนแนวเสียงของลำโพงและซิสเต็มหลักได้ หากซิสเต็มหลักเสียงไม่ได้เลย ไม่ใช่แบบที่ชอบ ไม่ต้องไปดิ้นรนหาเส้นสายมาแก้ จงเปลี่ยนลำโพง เปลี่ยนแอมป์ หรือลองเซ็ทอัพ หรือเปลี่ยนอุปกรณ์หลักให้มันถูกทาง ถูกหู เมื่อเสียงมาถูกทาง แล้วจึงใช้เส้นสายแต่งเติมอีกที

4. ซิสเต็มชุดแรก พึงระวังชุดนี้พี่เค้าบอกมาว่าดี

ส่วนใหญ่มือใหม่จะหาที่พึ่ง เที่ยวไปถามผู้ใหญ่ ถามเพื่อน ถามรุ่นพี่ในวงการ

รุ่นพี่บางทีก็แนะนำชุดที่เค้าชอบ จงฟังหูไว้หู และให้มั่นใจว่า ไอ้ที่เสียงดีที่เค้าบอกนั้นนะ เราชอบเสียงแบบนั้นหรือเปล่า

5. สิ่งสำคัญที่คุณอาจจะเรียนรู้และเป็นสิ่งสำคัญมากในการเล่นเครื่องเสียงนั้นก็คือ คำว่า "Matching" บางยี่ห้อจับกับยี่ห้อนี้แล้วถูกกัน เข้ากันมากกกก เสียงดี แม้ราคาจะไม่แพงก็เสียงดี

แต่บางทีเอาตัวนี้จับกับอีกตัวแล้วฟังไม่ได้เลย ไม่แมทอย่างแรงก็มี

หรือบางยี่ห้อจับกับยี่ห้ออะไรก็ให้เสียงแบบนี้แหละ ไม่ได้มีอะไรต่างเท่าไร่ จะจับกับตัวไหนก็ได้หมด แบบนี้ก็มี

จงเรียนรู้และค่อยๆซึมซับไปครับ สิ่งนี้ไม่มีวันรู้ได้เลยในวันแรกที่เล่นเครื่องเสียง และมันก็ไม่สามารถสอนกันได้ บางทีคนนู้นบอก สองยี่ห้อนี้ไม่แมทกันนะ แต่พอเรามาลองเองแล้วชอบ หรือบางคนบอกว่าสองตัวนี้เข้ากันได้ดี แต่เราลองแล้วไม่ชอบก็มี เพราะมันมีตัวแปรมากมายที่ทำให้ซิสเต็มสองซิสเต็มที่คล้ายกัน สามารถให้เสียงไม่เหมือนกัน รวมถึงรสนิยม ความชอบส่วนตัวก็มีผลมากเช่นกัน

ทางเดียวที่จะรู้ได้นั่นคือ คุณก็ต้องลองๆๆๆ เล่นๆๆๆ และซึมซับมันไปเอง ไม่มีซิสเต็มไหนจะชัว และแน่นอนเท่าซิสเต็มที่ลองที่บ้านคุณเอง

ห้องลองบางห้องเส้นสายแพงกว่ารถที่คุณขับมาอีก ค่าทำอคูสติกห้องแพงกว่าบ้านผมอีก แบบนี้เสียงดีทุกยี่ห้อครับ ฟังได้แค่แนวเสียง แต่จะเอาให้เหมือนที่ห้องเราเองนั้นคงเป็นไปได้ยาก

6. จะร้องเกะ หรือจะเล่นเครื่องเสียง? เครื่องเสียงบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบมาให้ร้องเกะ ก็เข้าใจว่าครอบครัวส่วนใหญ่อยากได้เครื่องเสียงชุดเดียวที่มันทำได้ทั้ง ดูหนัง ฟังเพลง ร้องเกะ อเนกประสงค์ครบชุดในตัว ถามว่ามีมั๊ย มีแต่ทำไม่ได้ดีสักอย่าง

ถ้าจะเอาดูหนังดี มันจะฟังเพลงได้แค่กลางๆ และร้องเกะไม่ได้

ถ้าเอาซิสเต็มฟังเพลงดี มันจะดูหนังไม่มัน และร้องเกะไมไ่ด้

จะเอาร้องเกะก็หาไมค์ หา mixer มาต่อ หรือหา dvd ที่มีฟังก์ชั่นคาราโอเกะ เสียบใมค์ได้มาเล่นจะดีกว่า

7. เครื่องเสียงบ้าน ไม่เหมือนเครื่องเสียงรถ และไม่เหมือนเครื่องเสียง pa (กลางแจ้ง) ก่อนจะเดินไปร้านเครื่องเสียงหรือตัดสินใจซื้อ จงถามตัวเองก่อนว่า จะใช้งานแบบไหน จะเอาลำโพงบ้าน ไปเปิดฟังออกงาน ทำปารตี้กลางแจ้งแบบนี้ไม่โอเค หรือจะเอาลำโพงบ้านไปวางแด๊นหน้าปากซอย ใช้เล่นสงกรานต์แบบนี้พังครับ

ส่วนใหญ่ร้านที่ขายเครื่องเสียงกลางแจ้งก็จะเน้นกลางแจ้ง ร้านที่ขายเครื่องเสียงบ้านก็จะขายแต่ของใช้งานในบ้าน อย่าเข้าผิดร้าน คนละระบบกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งการใช้งาน ราคา และการต่อใช้งานและคุณภาพเสียง

8. อย่าเน้นถูกจนแบบ ถู้กกกถูกจนแบบผิดปกติ ซื้อของชิ้นเดียวเช็ค 20 ร้าน เอาราคาทุกร้านไปบลัฟกัน สุดท้ายเอาราคาร้านที่ถูกที่สุดโทรไปหาผู้นำเข้าขอราคาถูกกว่าร้านที่ถูกที่สุด แบบนี้นอกจากอาจจะได้บริการแบบขอไปทีแล้ว บางทียังเจอตัวโชว์

เพราะการขายแบบตัดราคามากๆ หากเกิดปัญหาหรืองานที่ต้องเซอร์วิสเช่นเสีย ร้านจะไม่สามารถมาวิ่งเซอร์วิสหรือมาบริการ รับของไปเคลมได้ เพราะกำไรเข้าเนื้อมากแล้ว บางทีให้ลูกค้าวิ่งไปเคลมกับบริษัทผู้นำเข้าเอง หรือบางทีบ่ายเบี่ยง

หรือบางทีของไม่เสีย แต่ต้องการคำปรึกษาหรือต้องการความช่วยเหลือจากร้าน อาจจะต้องวิ่งมาดูให้ เซ็ท หรือโทรสอบถามการใช้งานภายหลัง ดึกๆดื่นๆ ติดขัดทำไม่ได้ เสียงไม่ออก แบบนี้ร้านเค้าขายอย่างเดียวหรือจะช่วยเหลือคุณได้รึปล่า

หากคุณคิดว่าเอาตัวรอดได้ ไม่ต้องการความช่วยเหลือ เก่งแล้วก็จัดไปครับ แต่ถ้ามือใหม่ ผมแนะนำว่าพยายามอย่าเลือกอะไรที่มันสุดโต่งมากไป ตึงไป หย่อนไปก็ไม่ดี เอากำลังดี เน้นของดี คุณภาพ มีบริการหลังการขาย ถามได้ คุยได้ ปรึกษาได้ วิ่งเซอร์วิสได้ ไม่ทิ้งลูกค้า แบบนี้จะดีกว่า

9. เครื่องเสียงในงบต่ำกว่า 5 หมื่นบาท +- ไม่มีตัวไหนดีที่สุดครับ มีแต่ได้อย่างนึงก็ต้องเสียอย่างนึง ชุดนึงอาจจะเบสดี แต่แหลมไม่ดี อีกชุดอาจจะคุ้ม ฟังก์ชั่นเยอะแต่เสียงไม่ดี

10. เครื่องเสียงมีจุดคุ้มทุนของมัน หามันให้เจอแล้วตอบตัวเองให้ได้ว่า จุดไหนที่คุ้มที่สุดสำหรับคุณ

เช่นชุดเครื่องเสียงที่ราคา 1 แสนบาทให้เสียงได้ดีพอประมาณ ฟังได้ฟังสนุก แต่หากเพิ่มเงินไป แสนห้า เงิน 5 หมื่นบาทที่เพิ่มมาอาจจะไม่ได้คุณภาพเสียงขึ้นมา 50% ตามเม็ดเงินนะครับ

หรือซิสเต็ม 10 ล้านกับซิสเต็ม 1 แสน นั้นก็ไม่ได้ห่างกัน 10 เท่าตามราคา ยิ่งซิสเต็มราคาแพงมากเท่าไร่ สิ่งที่ได้และเหนือกว่านั้นก็ได้มากขึ้นก็จริง แต่มันไม่ได้มากขึ้นเป็น linear เส้นตรงตามเม็ดเงินที่ลงไปนะครับ เพียงแต่สิ่งที่ได้มานั้นมันอาจะเป็นอะไรที่พิเศษและทำได้ยากมากๆก็ได้ แล้วจุดไหนที่คุ้มทุนละครับ ?

จุดที่คุ้มทุนก็คือจุดที่คุณพอใจครับ บางคนพอใจที่ 3 หมื่นบาท บางคนพอใจแสนนึง บางคนพอใจสิบล้าน อยู่ที่ใจและกำลังทรัพย์ครับ ไม่มีถูกหรือผิด

จบครับวันนี้เอาแค่นี้ก่อน พอหอมปากหอมคอ สำหรับมือใหม่หวังว่าจะได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย หรืออ่านแล้วถ้าไม่ถูกใจก็ข้ามๆไปนะครับ ขออภัยไว้ล่วงหน้าสำหรับอะไรก็ตามที่อาจจะผิดพลาดหรือไม่โดนใจจากบทความนี้

แต่ยืนยันว่าตั้งใจเขียน และเขียนจากประสบการณ์จริงและหวังดีจริงๆ

ขอบคุณครับ วันหลังถ้านึกอะไรออกจะมีเขียน part 2 ต่อ

เล่นเครื่องเสียงชุดแรก งบจำกัด งบน้อย จำไว้เสมอว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องใส่ใจก็คือ ลำโพง แอมป์ ไม่ใช่สายและ accessoriesเพราะเคยเจอคนเล่นลำโพงราคาหนึ่งหมื่น แต่ซื้อสายราคาสองหมื่นไปใช้พอเตือนก็เถียงมาอีกว่า คนเล่นเครื่องเสียงเป็นเส้นสายควรจะให้ความสำคัญกับมัน เอ้า ไม่เชื่อไปซะอีกมีผลคร้าบบบ เส้นสาย และ accessories มีผลแน่นอน แต่มีผล 10-20 % ของซิสเต็มหลัก หากซิสเต็มคุณใหญ่มาก ห้องคุณจัดอคูสติกดี เซ็ทอัพถึง คุณเล่นไปเลยเส้นสาย มันฟังออกไม่มากก็น้อยแต่ถ้าซิสเต็มระดับหมื่นต้นๆ หรือกลางๆ แล้วบอกจะทุ่มงบไปที่เส้นสายสัก 30% แบบนี้บอกเลยว่ามันไม่มีประโยชน์ สู้เอาเงินที่ทุ่มเรื่องเส้นสาย มาทุ่มที่ลำโพงหรือแอมป์ให้มันดีกว่าเดิมจะมีประโยชน์กว่าอย่าลืมว่าเส้นสายใช้แต่งเติมและปรับจูน แต่มันไม่สามารถไปเปลี่ยนแนวเสียงของลำโพงและซิสเต็มหลักได้ หากซิสเต็มหลักเสียงไม่ได้เลย ไม่ใช่แบบที่ชอบ ไม่ต้องไปดิ้นรนหาเส้นสายมาแก้ จงเปลี่ยนลำโพง เปลี่ยนแอมป์ หรือลองเซ็ทอัพ หรือเปลี่ยนอุปกรณ์หลักให้มันถูกทาง ถูกหู เมื่อเสียงมาถูกทาง แล้วจึงใช้เส้นสายแต่งเติมอีกทีส่วนใหญ่มือใหม่จะหาที่พึ่ง เที่ยวไปถามผู้ใหญ่ ถามเพื่อน ถามรุ่นพี่ในวงการรุ่นพี่บางทีก็แนะนำชุดที่เค้าชอบ จงฟังหูไว้หู และให้มั่นใจว่า ไอ้ที่เสียงดีที่เค้าบอกนั้นนะ เราชอบเสียงแบบนั้นหรือเปล่าบางยี่ห้อจับกับยี่ห้อนี้แล้วถูกกัน เข้ากันมากกกก เสียงดี แม้ราคาจะไม่แพงก็เสียงดีแต่บางทีเอาตัวนี้จับกับอีกตัวแล้วฟังไม่ได้เลย ไม่แมทอย่างแรงก็มีหรือบางยี่ห้อจับกับยี่ห้ออะไรก็ให้เสียงแบบนี้แหละ ไม่ได้มีอะไรต่างเท่าไร่ จะจับกับตัวไหนก็ได้หมด แบบนี้ก็มีจงเรียนรู้และค่อยๆซึมซับไปครับ สิ่งนี้ไม่มีวันรู้ได้เลยในวันแรกที่เล่นเครื่องเสียง และมันก็ไม่สามารถสอนกันได้ บางทีคนนู้นบอก สองยี่ห้อนี้ไม่แมทกันนะ แต่พอเรามาลองเองแล้วชอบ หรือบางคนบอกว่าสองตัวนี้เข้ากันได้ดี แต่เราลองแล้วไม่ชอบก็มี เพราะมันมีตัวแปรมากมายที่ทำให้ซิสเต็มสองซิสเต็มที่คล้ายกัน สามารถให้เสียงไม่เหมือนกัน รวมถึงรสนิยม ความชอบส่วนตัวก็มีผลมากเช่นกันทางเดียวที่จะรู้ได้นั่นคือ คุณก็ต้องลองๆๆๆ เล่นๆๆๆ และซึมซับมันไปเอง ไม่มีซิสเต็มไหนจะชัว และแน่นอนเท่าซิสเต็มที่ลองที่บ้านคุณเองห้องลองบางห้องเส้นสายแพงกว่ารถที่คุณขับมาอีก ค่าทำอคูสติกห้องแพงกว่าบ้านผมอีก แบบนี้เสียงดีทุกยี่ห้อครับ ฟังได้แค่แนวเสียง แต่จะเอาให้เหมือนที่ห้องเราเองนั้นคงเป็นไปได้ยากเครื่องเสียงบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบมาให้ร้องเกะ ก็เข้าใจว่าครอบครัวส่วนใหญ่อยากได้เครื่องเสียงชุดเดียวที่มันทำได้ทั้ง ดูหนัง ฟังเพลง ร้องเกะ อเนกประสงค์ครบชุดในตัว ถามว่ามีมั๊ย มีแต่ทำไม่ได้ดีสักอย่างถ้าจะเอาดูหนังดี มันจะฟังเพลงได้แค่กลางๆ และร้องเกะไม่ได้ถ้าเอาซิสเต็มฟังเพลงดี มันจะดูหนังไม่มัน และร้องเกะไมไ่ด้จะเอาร้องเกะก็หาไมค์ หา mixer มาต่อ หรือหา dvd ที่มีฟังก์ชั่นคาราโอเกะ เสียบใมค์ได้มาเล่นจะดีกว่าและไม่เหมือนเครื่องเสียง pa (กลางแจ้ง) ก่อนจะเดินไปร้านเครื่องเสียงหรือตัดสินใจซื้อ จงถามตัวเองก่อนว่า จะใช้งานแบบไหน จะเอาลำโพงบ้าน ไปเปิดฟังออกงาน ทำปารตี้กลางแจ้งแบบนี้ไม่โอเค หรือจะเอาลำโพงบ้านไปวางแด๊นหน้าปากซอย ใช้เล่นสงกรานต์แบบนี้พังครับส่วนใหญ่ร้านที่ขายเครื่องเสียงกลางแจ้งก็จะเน้นกลางแจ้ง ร้านที่ขายเครื่องเสียงบ้านก็จะขายแต่ของใช้งานในบ้าน อย่าเข้าผิดร้าน คนละระบบกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งการใช้งาน ราคา และการต่อใช้งานและคุณภาพเสียงซื้อของชิ้นเดียวเช็ค 20 ร้าน เอาราคาทุกร้านไปบลัฟกัน สุดท้ายเอาราคาร้านที่ถูกที่สุดโทรไปหาผู้นำเข้าขอราคาถูกกว่าร้านที่ถูกที่สุด แบบนี้นอกจากอาจจะได้บริการแบบขอไปทีแล้ว บางทียังเจอตัวโชว์เพราะการขายแบบตัดราคามากๆ หากเกิดปัญหาหรืองานที่ต้องเซอร์วิสเช่นเสีย ร้านจะไม่สามารถมาวิ่งเซอร์วิสหรือมาบริการ รับของไปเคลมได้ เพราะกำไรเข้าเนื้อมากแล้ว บางทีให้ลูกค้าวิ่งไปเคลมกับบริษัทผู้นำเข้าเอง หรือบางทีบ่ายเบี่ยงหรือบางทีของไม่เสีย แต่ต้องการคำปรึกษาหรือต้องการความช่วยเหลือจากร้าน อาจจะต้องวิ่งมาดูให้ เซ็ท หรือโทรสอบถามการใช้งานภายหลัง ดึกๆดื่นๆ ติดขัดทำไม่ได้ เสียงไม่ออก แบบนี้ร้านเค้าขายอย่างเดียวหรือจะช่วยเหลือคุณได้รึปล่าหากคุณคิดว่าเอาตัวรอดได้ ไม่ต้องการความช่วยเหลือ เก่งแล้วก็จัดไปครับ แต่ถ้ามือใหม่ ผมแนะนำว่าพยายามอย่าเลือกอะไรที่มันสุดโต่งมากไป ตึงไป หย่อนไปก็ไม่ดี เอากำลังดี เน้นของดี คุณภาพ มีบริการหลังการขาย ถามได้ คุยได้ ปรึกษาได้ วิ่งเซอร์วิสได้ ไม่ทิ้งลูกค้า แบบนี้จะดีกว่ามีแต่ได้อย่างนึงก็ต้องเสียอย่างนึง ชุดนึงอาจจะเบสดี แต่แหลมไม่ดี อีกชุดอาจจะคุ้ม ฟังก์ชั่นเยอะแต่เสียงไม่ดีหามันให้เจอแล้วตอบตัวเองให้ได้ว่า จุดไหนที่คุ้มที่สุดสำหรับคุณเช่นชุดเครื่องเสียงที่ราคา 1 แสนบาทให้เสียงได้ดีพอประมาณ ฟังได้ฟังสนุก แต่หากเพิ่มเงินไป แสนห้า เงิน 5 หมื่นบาทที่เพิ่มมาอาจจะไม่ได้คุณภาพเสียงขึ้นมา 50% ตามเม็ดเงินนะครับหรือซิสเต็ม 10 ล้านกับซิสเต็ม 1 แสน นั้นก็ไม่ได้ห่างกัน 10 เท่าตามราคา ยิ่งซิสเต็มราคาแพงมากเท่าไร่ สิ่งที่ได้และเหนือกว่านั้นก็ได้มากขึ้นก็จริง แต่มันไม่ได้มากขึ้นเป็น linear เส้นตรงตามเม็ดเงินที่ลงไปนะครับ เพียงแต่สิ่งที่ได้มานั้นมันอาจะเป็นอะไรที่พิเศษและทำได้ยากมากๆก็ได้ แล้วจุดไหนที่คุ้มทุนละครับ ?จุดที่คุ้มทุนก็คือจุดที่คุณพอใจครับ บางคนพอใจที่ 3 หมื่นบาท บางคนพอใจแสนนึง บางคนพอใจสิบล้าน อยู่ที่ใจและกำลังทรัพย์ครับ ไม่มีถูกหรือผิดจบครับวันนี้เอาแค่นี้ก่อน พอหอมปากหอมคอ สำหรับมือใหม่หวังว่าจะได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย หรืออ่านแล้วถ้าไม่ถูกใจก็ข้ามๆไปนะครับ ขออภัยไว้ล่วงหน้าสำหรับอะไรก็ตามที่อาจจะผิดพลาดหรือไม่โดนใจจากบทความนี้แต่ยืนยันว่าตั้งใจเขียน และเขียนจากประสบการณ์จริงและหวังดีจริงๆขอบคุณครับ วันหลังถ้านึกอะไรออกจะมีเขียน part 2 ต่อ