บทความ : ฟังเพลง ทั่วโลกได้ด้วย MUSIC STREAMING แถมไฟล์เพลงคุณภาพดีด้วยจ้า

By สุโสภาภรณ์ แดงอุบล

สวัสดีครับ มาเรียนรู้กับสิ่งสำคัญกับการฟังเพลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกั บไฟล์เพลงต่าง ๆ กันไปแล้ว ในบท 2 และ ผมเองก็ได้มีการเกริ่นนำร่อง ถึงสิ่งบทถัดมานี้ไปนิดหน่อย แล้ว ซึ่งเคล็ดลับต่าง ๆ ในบทความนี้นั้นผมจะพาท่านไปรู้จักกับ Music Streaming ว่ามันคืออะไร และเป็นที่นิยมได้อย่างไร รวมถึงแอปพลิเคชั่นสำหรับฟังเพล งออนไลน์พวกนี้นั้นมีอะไรบ้าง และจุดเด่นต่างๆของพวกมันกันครั บ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเริ่มกันเลยดี กว่าครับ

Music Streaming คือหนึ่งในรูปแบบการบริการของ E-Commerce ซึ่งใช้อินเตอร์เน็ตเป็นตัวกลาง พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการฟังเพลงแบบออนไลน์ได้โดยตรงนั่นเองครับ ซึ่งจะต้องประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลักๆ คือ

1) อุปกรณ์ - ตัวโทรศัพท์มือถือหรือ DAP ที่สามารถเชื่อมต่อ Wifi และรองรับการติดตั้งแอปพลิเคชั่น

สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้บริการฟังเพลงออนไลน์เหล่านี้เป็นที่นิยมกันมาก ณ.ปัจจุบัน ก็สืบเนื่องมาจากการเติบโตของธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือผู้สูงวัย ก็มักจะมีโทรศัพท์มือถือกันคนละเครื่องแน่ๆ และแน่นอนดนตรีนั้นเป็นศาสตร์ศิลป์ที่เข้าถึงผู้คนได้ในทุกเพศ ทุกวัยในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งก็เป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการสร้างความบันเทิง ผ่อนคลาย และก็เป็นนิยมมาก ๆ ในยุคที่ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนกันคนละเครื่องแบบนี้ครับ

ดังนั้นเจ้า Music Streaming จึงได้จุติมาเป็นแอปพลิเคชั่นที่รวบรวมเพลงต่างๆ มากมายมาไว้ในที่ๆ เดียว ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องหาซื้อแผ่นเสียง เทปคาสเซ็ท หรือแผ่นซีดี เปิดฟังจากโทรศัพท์ได้โดยตรงในทุกๆ สถานที่ และยังไม่จำเป็นต้องใช้เนื้อที่ในการจัดเก็บมากนักเหมือนไฟล์เพลงแบบดิจิตอล นี่จึงเป็นเหตุผลที่บริการเพลงออนไลน์รูปแบบนี้โด่งดังและเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบันนั่นเองละครับ ซึ่งก็ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตพวกเรา ที่ชื่นชอบเสียงเพลงในระดับหนึ่ง นั่นก็คือตัวโทรศัพท์นั้นเริ่มเข้ามามีบทบาทเทียบเคียงกับ DAP แม้ว่าจะให้คุณภาพเสียงที่สู้พวกเพลเยอร์แท้ๆ ไม่ได้แต่แลกมากับความสะดวกสบายในการใช้งาน ทำให้เกิดนักฟังหน้าใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

คนไทยเป็นคนที่ชอบความสนุกสนาน ชอบงานรื่นเริง และชอบฟังเพลงและถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ค่อนข้างใหญ่มากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ บริการ Music Streaming จึงเข้ามาตีตลาดในบ้านเราหลายเจ้ามาก ๆ แต่เท่าที่ผมเห็นหลัก ๆ แล้วนั้นก็จะมีอยู่ 4 แอปหลัก ๆ ที่คนส่วนใหญ่ใช้งานกันมากในบ้านเรา

จูกซ์แอปพลิเคชั่นบริการเพลงออนไลน์สัญชาติจีนที่เข้ามาตีตลาดในไทยโดยเว็บไซต์ ถือเป็นแอปที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในบ้านเราเพราะมีเพลงไทยให้เลือกฟังเยอะ และ หลากหลายมากที่สุด รวมถึงไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือนอีกด้วย แต่มีการจำกัดเพลงที่ฟังในบางเพลง และมีโฆษณาคั่น

สปอติฟายแอปพลิเคชั่นตัวล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้เองครับ โดยมีแหล่งกำเนิดมาจากบริษัทแบบสตาร์ทอัพในสวีเดน มีจุดเด่นอยู่ที่การจัดเรียง Playlist ต่างๆ ได้ค่อนข้างดี เพราะตัวผู้พัฒนาได้ใช้ AI เข้ามาช่วยประมวลผลการฟังเพลงของผู้ใช้งานแต่ละคน และเลือกนำเสนอแนวเพลงที่ค่อนข้างตรงตามความต้องการแต่ละคนมากที่สุด จึงสามารถหาเพลงฟังได้ค่อนข้างง่าย มีเพลงที่หลากหลายทั้งไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และเพลงสากลต่างๆ เช่นเดียวกับแอปจูกซ์ ตัวสปอติฟายเองก็สามารถใช้งานแบบฟรีได้ในบางเพลงเช่นกันแต่ก็จะมีโฆษณามาคั่นระหว่างเพลง รวมถึงตัวแอปจะเล่นเพลงแบบสุ่มและสามารถกดข้ามเพลงได้แค่ 6 ครั้ง/ชั่วโมง และยังสามารถอัพเกรดเป็น Premium User ได้เพียงเสียค่าบริการแบบรายเดือนที่ 129 บาท และแบบแฟมิลี่แพลนที่ 199 บาทโดยแชร์การใช้งานได้ 5 คน โดยคุณภาพเสียงของ Spotify นั้นจะวิ่งอยู่ที่ 320 kbps และเป็นไฟล์แบบ OGG Vorbis ครับ

แอปเปิ้ลมิวสิคคือแอปที่ติดมากับโทรศัพท์ iPhone ผู้ใช้งานหลายๆท่านเลยเลือกใช้งานเจ้าแอปตัวนี้เพราะเข้าถึงได้ง่าย มีไฟล์เพลงที่ค่อนข้างหลากหลายทั้งไทย-เทศ โดยการสตรีมมิ่งของแอปนี้จะได้ไฟล์เสียงในรูปแบบ AAC ที่เหมาะกับการใช้งานใน IOS มากกว่าแถมยังให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า MP3 ทั่วๆไปอยู่ระดับหนึ่งด้วย ซึ่งผู้ให้บริการไม่ได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรว่าคุณภาพเสียงที่ได้นั้นวิ่งอยู่ที่เท่าไร แต่จากการคาดเดาแล้วน่าจะอยู่ที่ประมาณ 256 kbps ซึ่งเหมือนกับเพลงที่เราซื้อมาจาก iTunes นั่นเอง โดยจะมีค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 129 บาท และแบบแฟมิลี่แพลนที่ใช้งานได้สูงสุด 6 คน ที่ราคา 199 บาท รวมถึงสิทธิพิเศษสำหรับนักเรียน-นักศึกษาที่คิดค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 69 บาทต่อเดือน เท่านั้นเองครับ

ไทดัลเป็นบริการสตรีมมิ่งคุณภาพสูงที่มีไฟล์เพลงระดับ Hi-Fi แบบไม่มีการบีบอัดจำนวนมาก มีเพลงสากลต่าง ๆ หลากหลายและเยอะมาก ๆ แต่เพลงไทยค่อนข้างน้อย จึงยังไม่เป็นที่นิยมในผู้ใช้บริการบ้านเรามากนัก แต่ถือเป็นแอปที่ให้บริการเพลงที่มีคุณภาพเสียงสูงที่สุดในบ้านเรา และได้รับความนิยมในหมู่จอมยุทธ์ยอดฝีมือในบ้านเราค่อนข้างมาก

โดยค่าบริการรายเดือนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ระดับคือแบบ Premium ที่มีบิทเรตประมาณ 320 kbps หรือเทียบเท่า MP3 และแบบ Hi-Fi ที่ให้คุณภาพเสียงสูงถึงไฟล์ Master Quality เลยทีเดียว โดยที่ตัวไฟล์ในระดับ Hi-Fi Users จะเป็นแบบสูงสุดที่คุณภาพระดับ MQA 24/192 เลยทีเดียวแต่ต้องเล่นผ่าน Application บน PC และต่อด้วย DAC ที่รองรับ MQA เท่านั้นนะครับ ยกตัวอย่างเช่น Audioquest Dragonfly และ Meridian Explorer 2 แต่ถ้าหากเล่นผ่าน DAC ที่ไม่รองรับไฟล์จำพวก MQA แล้วนั้นคุณภาพเสียงที่ได้จะอยู่ที่ระดับ 24/96 kHz (ขึ้นอยู่กับ DAC แต่ละรุ่นนะครับ) ซึ่งหากเราฟังเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือ ก็ยังคงได้คุณภาพเทียบเท่าไฟล์ Lossless คือ อยู่ครับ จัดว่าเป็นการสตรีมมิ่งในคุณภาพระดับ CD Quality ที่ผ่านการเข้ารหัสใหม่แต่ไม่ตัดทอนคุณภาพ อย่างเช่น FLAC และ ALAC นั่นเองโดยค่าบริการของไทดัลจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ระดับเช่นกัน คือ 129 บาทสำหรับ Premium Users และ 258 บาทสำหรับ Hi-Fi Users

โดยหากยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ MQA และไฟล์เพลง สามารถกลับไปอ่าน บทความ : มาทำความรู้จัก MQA กันดีกว่า และ บทความ : ชำแหละไฟล์เพลง

นอกจากนี้ยังมีบริการ Music Streaming อีกหลายเจ้าทีเดียวครับที่ผมไม่ได้กล่าวถึง ทั้ง Deezer, Qobuz, Fungjai ฯลฯ ซึ่งก็มาแรงในระดับหนึ่งเช่นกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้บริการอย่างเรา ๆ ว่าจะเลือกใช้งานเจ้าไหน เพราะแต่ละแอปเองก็มีจุดเด่นไม่เหมือนกันนั่นเองครับ